Talk:MLM Marketeers
Information from The State of Sarkhan Official Records
มี 7 Ep อ่านต่อกันฉ่ำๆ ได้เลยจ้า #Ep1เข้าวงการแบบปลาฉลาม ถ้าถามว่า เข้าวงการขายตรงได้อย่างไร ? เรื่องมันเริ่มมาจากตอนนั้นผมกำลังหาเงินแต่งงานสร้างครอบครัว เงินเดือนราชการอย่างเดียวไม่พอแน่ๆ กับการซื้อบ้านใน กทม. ตอนนั้นผมมีอาชีพเสริมเป็น โค้ชด้านการเขียน หน้าที่หลักๆ คือ เวลานักธุรกิจต่างๆ ที่อยากเขียนหนังสือวางขายทั่วประเทศ , ทำ content , ทำสื่อ social ช่องทางต่างๆ แต่เขียนไม่ได้สักที ผมก็จะเข้าไปประกบคอยซักถาม , แนะนำ , ไปจนถึงเขียนแทนเลยก็มี นอกจากนั้น ก็มีงานอดิเรก คือ ทำเพจแนะนำการสอบรับราชการ (ตอนนี้กลายมาเป็น เพจ พี่แมง ป.) ที่ว่าเป็นงานอดิเรก คือ ไม่มีโปรดักขาย ไม่มีรายได้ใดๆ จากช่องทางนี้ ประโยชน์ทางอ้อมๆ ที่ได้จากการทำเพจ คือ มีผลงานการเขียนเอาไว้ไปโชว์บรรดานักธุกิจที่เล็งๆ หาคนมาเป็นโค้ชงานเขียน จากงานทั้ง 3 คือ งานราชการ + งานที่ดีลกับนักธุรกิจ + งานทำเพจแนะแนว = ทำให้เพื่อนที่ทำธุรกิจตัวนี้อยู่ เล็งเห็นว่าเราเป็น "ปลาฉลาม" #Ep2เมื่อปลาฉลามเข้าวังสิงโต ถ้าถามว่า ปลาฉลาม คือ อะไร ? วงการนี้จะต้องชวนคนเข้ามาเพื่อลงเงิน รับสินค้าไปขายต่อ และหาคนมาลงเงิน รับสินค้าไปขายต่อมคนต่อๆๆๆ ไป เป็นลูกโซ่ไม่รู้จบ ทีนี้ เขาจะเปรียบเปรยคนที่ต้องไปล่ามาลงเงินเสมือนปลา ซึ่งถ้าเป็นคนที่ดูโปรไฟล์ดี มีแนวโน้มจะเข้ามาแล้ววันรุ่งขึ้นหาเหยื่อได้เลย ผ่านไปหนึ่งเดือนหาเหยื่อได้เป็นร้อยๆ พันๆ ไม่ต้องมาฝึกหัดนับ 1 ใหม่แบบคนทั่วไป พวกเหยื่อโปรไฟล์ดีนี่แหละ ที่เขาเรียกกันว่า ปลาฉลาม โดยปกติ จะเป็นบรรดานักธุรกิจที่มีทีมงานอยู่แล้ว เช่น ทำขายตรงตัวอื่นอยู่ , ทำธุรกิจเครือข่ายอย่างอื่นอยู่ , เป็นเจ้าของโรงงานที่มีบริวารเยอะ ฯลฯ ถ้าดูจากโปรไฟล์ผม ณ ตอนนั้น ที่น่าจะหาเหยื่อในวงการราชการได้ หาเหยื่อที่เป็นนักธุรกิจก็ได้ หรือ หาเหยื่อจากลูกเพจที่ตอนนั้นผมมีผู้ติดตามประมาณ 3 หมื่นคน ก็ยังได้ ...ดังนั้น ผมจะถูกมอบมงในตำแหน่ง ปลาฉลาม ไปโดยปริยายทั้งที่ตำแหน่งและรายได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับฉลามตัวอื่นๆ ฉลามทุกตัวจะได้รับเทียบเชิญ เข้าพบ "คุณ..." พญาราชสีห์แห่งวงการธุรกิจออนไลน์ ณ คฤหาสถ์แห่งหนึ่งใจกลางเมือง ต้องอธิบายว่าคนที่เข้าวงการนี้ แล้วอินมากๆๆๆๆๆ จะใฝ่ฝันว่าสักวันจะมีโอกาสได้เข้าพบ คุณ... จนฟีลมันเหมือนได้เข้าไปเหยียบพระราชวังของเจ้าชายในนิยาย ผมได้ทำการนัดหมายลงคิวกับเพื่อนที่จะเข้าพบ คุณ ... ณ วังสิงโต ซึ่งตอนนั้น ผมก็ยังงงๆ ว่า จะเข้าไปพบเพื่ออะไรเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าลองไปคุยๆ ดูก็คงไม่เสียหาย มันไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสแบบนี้นะ บลาๆๆๆๆ #Ep3กระดอเดวิดปิดการขาย และแล้ว วินาที ที่ผมได้เข้าไปนั่งคุยตัวต่อตัว ในระยะห่างกันแค่ 30 ซม. ก็มาถึง เมื่อเลขาฯ ของ คุณ... บอกว่าถึงคิวผมแล้ว ผมก็เดินตัวปลิวเข้าไปคนเดียว ผ่านสายตาของคนในบ้านนั้นนับ 30 คู่ ที่มองผมเป็นตาเดียวกัน "มันเป็นใครวะ พวกกูต้องเข้าพบ คุณ... เป็นกลุ่มๆ แต่แม่งเข้าไปคนเดียว" "นี่แหละ คือ ดาวรุ่งคนต่อไป แสงสว่างขององค์กรเรา" "ยินดีด้วย เหยื่อคนต่อไป หึ หึ" ผมเดาจากการอ่านสายตาของหลายๆ คนที่มองผมตอนเดินเข้าไป ซึ่งในวันนั้น หลายคนที่มาเข้าพบ คุณ. มากันเป็นกลุ่มๆ ต้องเข้าพบเป็นกลุ่มๆ แต่ผมเป็นคนที่เข้าพบคนเดียว นั่งคุยกันตัวต่อตัว ย่อมแปลกหูแปลกตาเป็นธรรมดา เมื่อนั่งคุยกันกับ คุณ... ก็ยังมีสายตานับสิบคู่จากนอกห้องมองเข้ามา ในทำนองอิจฉา อยากคุยใกล้ๆ กับไอดอลด้านความร่ำรวยแบบคุณ... บ้างจัง บทสนทนาของ ฉลามน้อย กับ คุณ... ถูกนำเสนอผ่าน iPad โดยเริ่มจากการเปิดอัลบั้มภาพ คุณ... ไปทัวร์ยุโรป ไปกินหรูอยู่สบาย ใช้ชีวิตสไตล์ลักชัวลี่ ฯลฯ สายตาผมตอนนั้นเหม่อลอย เหมือนคนที่กำลังครุ่นคิดว่า "กูมาทำไรตรงนี้วะ" เชื่อว่า คุณ... มองเห็น จึงตัดบทด้วยการเปิดภาพที่เขาไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ที่มีรูปปั้นเดวิด (ผู้ชายแก้ผ้า) แล้ว zoom ขยายตรงแหนมตุ้มจิ๊วของเดวิด แล้วเล่นมุกฮาๆ ว่า "ผมว่าฝรั่งสู้ชายไทยอย่างพวกเราไม่ได้" จังหวะเล่นมุกทำให้เกิดเสียงฮาของเราสองคน บรรยากาศการสนทนาคลายความตึงเครียดลง เกิดความไหลลื่น คุณ... เริ่มเปิดเอาอัลบั้มภาพที่เป็นเสมือนหมัดเสยปลายคางออกมารันบทสนทนาต่อ ภาพเหล่านั้น คือ ภาพของบรรดาชายหญิงที่ถ่ายรูปคู่รถ supercar แบบยืนเรียงๆๆๆ กับ เหมือนทหารเข้าแถวเตรียมไปรบ แต่ละคนยืนถ่ายคู่รถคู่ใจ เป็นภาพที่ถ่ายโดยใช้โดรนบิน เสมือนเราเป็นนกอินทรีย์ที่มองลงมาจากฟากฟ้าแล้วเจอกองทัพคนรวยยืนเรียงๆๆๆๆ กัน ละลานตายิ่งกว่าผีมะขามตามสนามหลวง แล้ว คุณ... ก็เริ่มจิ้มสุ่มทีละคน 5 คนแรก เป็นกลุ่มวิชาชีพชั้นสูงส่งในเมืองไทย เช่น หมอ , วิศวกร , ดร. สาขาต่างๆ 3 คนถัดไป เป็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือน , ข้าราชการ ทีเด็ดอยู่ที่ 2 คนสุดท้าย "นี่... เมื่อก่อนเขาเป็นแม่ค้าเข็นรถขายไส้ย่าง..." "คนนี้... ขายกล้วยทอดหน้าปากซอย ต้องคอยเก็บแผงวิ่งหนีเทศกิจ... " ทุกคนที่จิ้มให้ดู คือ คนที่ร่ำรวยจากการร่วมลงทุนกับเขา โดยเฉพาะกลุ่มสุดท้าย นี่เรียกได้ว่า ชีวิตพลิกจากทำงานหาเช้ากินค่ำกลายมาเป็นคนรวยขับรถ supercar ในชั่วข้ามคืน คุยไปจนจะหมดโควต้าเวลาของผมแล้ว คุณ... ก็สรุปจบในทำนองว่า อยากให้เข้ามา (ร่วมธุรกิจ) เวลาของเราก็น้อยลงไปทุกที อายุก็มากขึ้นทุกวัน (ประมาณว่าให้รีบๆ ตัดสินใจ) ต้องชมว่า คุณ... ไม่ได้พูดในเชิงการกดดันให้รีบสมัครแต่อย่างใด แค่ชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ของความสำเร็จเฉยๆ ในบรรยากาศเหมือนเพื่อนคุยกันชิลๆ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและไม่ตั้งกำแพงรังเกียจธุรกิจของเขา #Ep4วินาทีที่ตกเป็นของเขา หลังจากกลับมาจากวังสิงโต ผมก็เกิดความ "อยากได้แบบเขาบ้าง" ผมอยากมีรถ อยากมีบ้าน อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ อยากให้พ่อแม่ได้เข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนเวลาเจ็บป่วย (ทั้งที่ยังไม่มีลูกและพ่อแม่ไม่แก่) ในใจตอนนั้น มีประโยคนึงที่บรรดาผู้คนขายตรงพูดให้ฟังเสมอ วนเวียนอยู่ "คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้" สำหรับคนที่ไปผ่านการนวดเปิดเส้นกระษัยมาที่วังสิงโตแล้วแบบผม ประโยคพวกนี้มันจะยิ่งทวีความเข้มข้น เป็น "แม่ค้าขายไส้ย่างทำได้ กูก็ต้องทำได้" "แม่ค้าขายกล้วยทอดทำได้ คนจบปริญญาโทแบบกูก็ต้องทำได้" ประโยคเสล่อๆ ที่ตอนนั้นผมคิดว่าเท่ ผุดมากดดันในหัวมากมาย ในช่วงเวลานั้น ตรงกับงานสัมมนาใหญ่ของแบรนด์นี้ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ที่อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ว้ายยยย บังเอิ๊ญจริงๆ ใกล้บ้านเราอีก แถมงานนี้เพื่อนที่ชวนไปบ้านคุณ.... ก็ยังบอกว่าให้ผมมาคุยกับพวกเขาได้เลย ซึ่งพวกเขาเป็นระดับสูงๆ กันในแบรนด์นี้แล้ว ไม่ต้องไปฟังสัมมนา ,แปะมือกันแล้วร้องเฮ้ ,หันไปหาเพื่อนข้างๆ แล้วชี้หน้ากับพูดว่า เธอทำได้แน่ๆ ,โทรไปหาคนที่คุณรักมากที่สุดแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ฉันจะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ บลาๆๆๆๆๆ พอผมไปถึงงานช่วงเย็นๆ ก็เดินฝ่าฝูงชนที่กำลังบูมบาก้า ฮ้าๆๆ เข้าไปพบเพื่อนผมได้เลย อารมณ์เหมือนมีช่องทาง VIP ให้เดินผ่าน แถมบรรดาตัวท็อปที่เพิ่งลงจากเวทีก็มาคุยเล่นกันกับผม ชวนไปกินข้าวเย็นกันต่ออีกแหนะ นั่นแหละครับ 4.4 หมื่น โอนไปเรียบร้อย สาเหตุเพราะผมเห็นความเป็นไปได้ 1. การหาลูกข่าย = เกาะแก็งค์ไปเรื่อยๆ น่าจะได้มาบ้างแหละ 2. การขายสินค้า = ของเขาดีระดับโลก เราทำเวป ทำเพจใหม่ขายออนไลน์ก็น่าจะได้ #Ep5หน้าพังแต่ยังสู้ต่อ หลังจากที่ของมาส่งเราก็เปิดกล่องดู เป็นพวกอาหารเสริม เซรั่มทาหน้า ครีม จำนวนไม่เยอะเท่าที่ควรจะได้จากราคา 4.4 หมื่นบาท แต่ตอนนั้นเริ่มเข้าไปอบรมที่สำนักงานใหญ่ใจกลางเมือง เลยคิดว่า "ของต้องดีมากๆ แน่เลย ราคาถึงแพง" ตอนอบรมที่สำนักงานใหญ่ ทีแรกเรานึกว่าเขาจะสอนเทคนิคการขาย , เครื่องมือทำการตลาดออนไลน์ แต่จริงๆ คือ การอวยคุณภาพสินค้าที่ตอนนั้นมีเซรั่มที่ทำจากเทคโนโลยีขั้นสุดยอดของโลกเป็นเรือธง ไฮไลของการอบรม คือ การให้ดูคลิปของเฮียคยนึงที่หน้าตาเหมือนโจรป่าที่ตั้งแต่เกิดมาไม่รู้จักน้ำประปา แต่พอทาเซรั่มตัวนั้นไป 30 วัน หน้าตากลายเป็นเซเลปเกาหลี แล้วเฮียเกาหลีก็ปรากฎตัวออกมา คนทั้งห้องกรี๊ดเหมือนเห็นแม่ตัวเองถูกหวย เฮียบอกว่าตัวเองไม่เคยอยากทำธุรกิจนี้ จนมาพบว่าหน้าตัวเองหล่อขึ้นมาก จึงได้มาเข้าร่วมและชวนลูกน้อง 5 คน มาร่วมด้วย ตอนนี้รวยแบบรวยมากรวยแบบรวยอะรวยแบบรวยคือรวยอะแหละ ฯลฯ เราเชื่อที่เฮียพูด เพราะ หนังหน้าแกดีจริงๆ กลับบ้านมาเรารีบเอาเซรั่ม ทาๆๆๆ ทั่วหน้า หวังว่าครบ 30 วันจะเห็นผล แต่แค่เพียง 7 วันก็เห็นผลแล้ว !! สิวหัวช้างขึ้นบนหน้า ไม่ได้มาแค่เชือกเดียว มาเป็นโขลง ไม่ได้ช้างธรรมดา - แก้มซ้ายช้างแมมมอธสี่ตัวยืนเรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส - แก้มขวาช้างเอราวัณยืนตระหง่านเหมือนอนุสาวรีย์ที่ปากน้ำ ตอนนั้นคิดในใจว่า ถ้าเราเอาไปขายเพื่อน เราจะเสียเพื่อนไหมอะ มันจะบาปไหม ในช่วงที่กำลังลังเลๆ นี่แหละ ที่เริ่มตีตัวออกห่างจากวงจรนี้ทั้งหมด ไม่ขายของให้ใครสักคน ทดลองใช้สินค้าล๊อตแรกจนหมด ...ค้นพบว่า แม่งโคตรธรรมดา จะมีแค่วิตามินตัวนึงที่รู้สึกว่าดี ที่เหลือคุณภาพงั้นๆ มาก แต่ด้วยความที่จ่ายเงินไปเยอะ ก็พยายามมองในแง่ดีว่า 1. เรามีเพื่อนๆ ที่ตอนนั้นมาขอให้เราช่วยเปิดคอร์สสอนเขียน content เราก็ยังได้ทำในสิ่งที่เราชอบ 2. เราหวังว่าจะได้เรียนรู้วิชาทางการตลาดออนไลน์ที่ตอนนั้นเค้าโปรโมทเสมือนกับเป็นจุดเด่นที่สุดของธุรกิจเขา เราหวังจะเอามาต่อยอดกับธุรกิจอื่นๆ ในอนาคตของเรา #Ep6ถึงเวลาต้องตัดใจ ผ่านเวลาไปสักระยะผมได้เรียนรู้ว่า 1. โมเดลธุรกิจไม่มีอะไรเลยนอกจากหาเหยื่อมาลงทุน 2. สินค้าไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เน้นให้ตัวแทนซื้อมาเอายอดเอาตำแหน่ง ขนาดตัวแทนขายหั่นราคาแบบเกินครึ่งในแอปส้มก็ขายไม่ออก 3. เครื่องมือและวิชาการตลาด ไม่มีห่าไรเลย ก็แค่ตระเวนจัดสัมมนาสอนรวยในพื้นที่ต่างๆ ตัวแทนช่วยกันปั่นกระแสยิงแอดรัวๆๆๆๆ พอคนไปงานสัมมนาก็จะมีทีมโค้ชภาคพื้นดินคอยประกบ โน้มน้าวในงานให้เปิดบิล ก่อนส่งต่อให้ตัวแทนต่างๆ พาไปเทรน พาไปสัมมนาย่อย สัมมนาย่อยในย่อย ฯลฯ 4. อีเฮียที่บอกว่าหล่อขึ้น มันไปทำศัลฯ มา (สมัยนั้นผมไม่รู้จักว่าโลกนี้มีโบท็อก เมโส ไฮฟู่ ฯลฯ ไม่รู้จักอะไรทั้งนั้น) 5. คุณ... เจ้าของแบรนด์ ก็ศัลฯ มาทั้งหน้าแล้วบอกว่าแดกผลิตภัณฑ์ตัวเองเลยหล่อขึ้น ยิ่งนานวันไป หน้าของคุณ... ก็ยิ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อัพเดทบ่อยกว่า ios ซะอีก . . ถึงจุดนี้ ผมตัดใจทิ้งเงิน 4.4 หมื่นไปเรียบร้อยแล้ว และไม่ขอข้องเกี่ยวใดๆ กับวงการนี้อีก สิ่งหนึ่งที่ดีใจ คือ ไม่เคยชักชวนใครให้เข้ามาทำเลย #Ep7บทสรุป หลังจากนั้นสักระยะ จู่ๆ ก็มีข้อความเด้งรัวๆๆๆ ในไลน์กลุ่มขายตรงที่ผมลืมถีบตัวเองออกมา มีแต่ข้อความด่า คุณ...รัวๆๆๆๆ โดยคนที่ครั้งนึงเคยยกยอคุณ... เสมือนเทพ หลายคน คือ คนที่มองผมแววตาปริ๊งๆๆ ชื่นชมยินดีแทนผมที่มีโอกาสเข้าพบคุณ... แบบส่วนตัว วันนี้ ด่าคุณ...รัวๆๆๆๆ ผมตามเผือกจนรู้ว่า คุณ... ทิ้งไปเปิดแบรนด์ใหม่ . . . ถ้าถามว่า ผมโกรธเพื่อนผมไหมที่ชวนไปร่วมธุรกิจ ตอบตรงนี้ว่า ไม่เคยโกรธ เพื่อนผมเชื่อว่ามันคุ้มค่าจริงๆ เป็นไปได้จริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังติดตามและส่งกำลังใจเชียร์พวกเขาตลอด (ไม่มีใครทำงานกับคุณ...แล้วตอนนี้) ถ้าถามว่า โกรธคุณ....ไหม ตอบว่า ไม่โกรธ ในเคสของผม ผมไม่ได้โดนหลอก แต่คนที่ควรจะบอกข้อมูลทั้งหมด (ซึ่งก็ คือ มึงไง คุณ... มึงนั่นแหละ อ.ด. ) กลับไม่ยอมบอกให้หมด แล้วปล่อยให้กลไกธุรกิจที่เขา set ระบบไว้บอกความจริงกับผมแทน ว่า วงจรนี้มีแต่เขาเท่านั้นที่มีแต่ได้กับได้ . . บทเรียนที่จะเก็บไว้สอนลูกสาว คือ 1. ถ้าธุรกิจไหนได้กำไรระดับพันล้าน ให้ดูว่าเขาขายสินค้าอะไร 2. ถ้าสินค้านั้นๆ เราแทบไม่ได้เห็นคนรอบตัวเราใช้ แสดงว่า ธุรกิจนั้นๆ เป็น สีเทา/สีดำ ดึงคนเข้ามาเป็นเหยื่อ แล้วให้เหยื่อคนก่อนหาเหยื่อคนใหม่ ไปเรื่อยๆ 3. ถ้ารู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อ ให้หยุด อย่าหาเหยื่อรายต่อไป เก็บความผิดพลาด เอาไว้ฟาดกลับ เพื่อเป็นบทเรียนให้กับคนรุ่นหลัง ...แบบที่พ่อรอคอยมานานถึง 7 ปี