หิวแสง
🧠 "หิวแสง" อาการป่วยทางความสนใจที่ไม่ได้เกิดแค่ในฟีดดราม่า แต่แพร่กระจายได้เหมือนไวรัสในโลกอินเทอร์เน็ต
ในยุคที่ "แสง" (ความสนใจ) กลายเป็นสินทรัพย์ใหม่ที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน แต่แลกมาด้วยความหน้าด้านและการโพสต์อิหยังวะ อาการ "หิวแสง" จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน—แม้แต่กับคนที่มีบ้านหลังใหญ่ รายได้หลักล้าน และชื่อเสียงระดับโลก เช่น J.K. Rowling
🌟 หิวแสงคืออะไร?
"หิวแสง" ไม่ใช่อาการทางกาย แต่เป็น โรคทางจิตสังคมที่เกิดขึ้นเมื่อสมองต้องการโดปามีนจากการเป็นศูนย์กลางของความสนใจ บางคนอาจเริ่มจากการโพสต์รูปแมวหรือกาแฟ แต่เมื่อยอดไลก์ไม่พุ่งตามต้องการ พวกเขาก็จะขยับสู่ขั้นที่เรียกว่า “ด่าหาเรื่อง” หรือ “ทัวร์เรียกวิว” ซึ่งเป็นเวอร์ชันดิจิทัลของการตะโกนกลางตลาดว่า "มองฉันสิ!"
📌 JK Rowling: จากผู้สร้างโลกเวทมนตร์ สู่ผู้สร้างสงครามบนทวิตเตอร์
ไม่มีอะไรที่บ่งบอกอาการหิวแสงได้ชัดไปกว่าการที่ เศรษฐีนักเขียนผู้ไม่มีใครรังแก ลุกขึ้นมาทวิตด่าคนที่เป็น Asexual โดยกล่าวหาว่า "เป็นกลุ่มที่สร้างความน่าสงสารปลอมๆ" (Fake Oppression) ทั้งที่กลุ่มนี้แค่ใช้ชีวิตของตัวเองเงียบๆ ไม่ได้ขออะไรนอกจากอย่ามายุ่งกับความเงียบสงบของพวกเขา
และแน่นอนว่า...ทัวร์ลงจ้า 🚍💨
🪞 ทำไมคนที่มีทุกอย่างถึงยัง "หิวแสง"?
เพราะแสงมันเสพติดไงคุณพี่!
การได้รับความสนใจในยุคนี้คือรูปแบบหนึ่งของ การยืนยันตัวตน เมื่อโลกหมุนรอบไลก์ แชร์ คอมเมนต์ และ #เทรนด์ทวิต ผู้ที่เคยอยู่ในสปอตไลต์อาจรู้สึกกลัวว่าจะถูกลืม และนั่นคือจุดเริ่มของการกระโดดขึ้นเวทีโดยไม่สนว่าเวทีนั้นจะเป็นเรื่องดี เรื่องเหี้ย หรือเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองเลยแม้แต่น้อย
⚠️ หิวแสงไม่เลือกเพศ วรรณะ รายได้ หรือเชื้อชาติ
- เน็ตไอดอลโพสต์รูปไก่ทอดพร้อมแคปชั่นเศร้าว่า “บางทีความรักก็เหมือนไก่ทอด ไม่มีวันกลับมา”
- อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพโดดขึ้นรถแทรกเตอร์ไปถ่ายรูปกับคนงานเพราะ "อยากสื่อถึงชีวิตเรียบง่าย"
- คนธรรมดาก็ไม่รอด โพสต์ว่ามีคนมองหน้าในร้านสะดวกซื้อแล้วเหมารวมว่าเป็นการเหยียดเพศ
นั่นแหละ...ทั้งหมดคืออาการในตระกูล "หิวแสง" ที่พร้อมระบาดได้ทันทีที่มีไวไฟและความว่างในใจ
🧘 ทางออกจากโรคหิวแสง
- ปิดแอป แล้วไปปลูกต้นไม้หรือเลี้ยงแมว
- ยอมรับว่าการไม่ได้รับความสนใจไม่ใช่ความล้มเหลว
- จำไว้ว่าการไม่พูดในบางเรื่อง ไม่ได้แปลว่าเราถูกลืม มันแค่ไม่ใช่เรื่องของเรา
📢 สรุป
"หิวแสง" ไม่ได้เกิดแค่ในหมู่คนที่ไม่มีชื่อเสียง บางครั้งมันเกิดขึ้นกับคนที่เคยได้แสงมาอย่างล้นหลาม แล้ววันหนึ่งแสงนั้นเริ่มหรี่ลง เหลือไว้เพียงเสียงทวิตแซะที่ไม่มีใครหัวเราะแล้ว
ดังนั้นในโลกที่ทุกคนสามารถมีไมค์ของตัวเองได้บนโซเชียล อย่าลืมเช็กตัวเองบ้างว่าเรากำลังพูดเพราะอยากสร้างคุณค่า หรือแค่ กำลังหิวแสงจนลืมกินข้าว
#หิวแสง #FakeOppression #โซเชียลคือโรงละคร #ทัวร์ลงไม่ใช่ความรัก